แมนยู - สนุกในแบบของเรา! #การสร้างทีมของโอเล่ #เพื่อคว้าชัยในสไตล์ปีศาจแดง

"Win on our terms" แปลว่า ชนะในแบบของเราเอง ตรงนี้ต้องย้อนกลับมาคุยกันหลายอย่างครับ อย่างแรกเลยคือคำว่า "แบบของเราเอง" หมายความว่าอะไร? บอลของโซลชา เน้นการโจมตีเร็วเมื่อบุกพ้นวงกลมกลางสนาม และเร่งสปีดเข้าทำใส่คู่แข่งในแดนสุดท้ายอย่างเฉียบคม หรือพูดง่ายๆ ก็คือ 'บุกสนุก รุกมัน ยิงสายฟ้าแลบ' จนคู่ต่อสู้ตั้งตัวไม่ทันนั่นเองครับ

แต่กว่าจะได้มาเล่น 'ในแบบของเราเอง' ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะกว่าที่แต่ละทีมจะกล้าบุกใส่ทีมใหญ่ โดยใช้สไตล์ของตัวเองได้ องค์ประกอบในทีมต้องพร้อมทั้งหมดเสียก่อน เปรียบเทียบง่ายๆ ก็กับอริที่รักของเรา อย่าง ลิเวอร์พูล ที่กว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ จะติดตั้งแผนให้ลูกทีมใช้ฟูลแบ็กเติมเกมรุก , มีการสอดประสานหาช่องเข้าทำของสามตัวบน (ซาลาห์ , มาเน่ , ฟีร์มิโน่) ก็ต้องรอให้เข้าสู่ฤดูกาลที่ 3 และ 4 ซึ่งนักเตะพอจะเข้าใจระบบของเขาบ้างแล้ว

หลังจากก่อนหน้านั้น "หงส์แดง" ก็ใช้วิธีการบีบเพรสซิ่งอย่างหนัก และใช้บอลโต้กลับเป็นหลัก สำหรับโซลชา 'การสร้างทีม' ของเขาลึกกว่านั้น เพราะเขาไม่ได้มอง ยูไนเต็ด เป็นแค่ทีมฟุตบอล แต่เขาประเมินภาพใหญ่เป็น 'องค์กร' แห่งหนึ่ง สิ่งที่โซลชาทำเป็นอย่างแรกตั้งแต่เข้ามาทำทีมเมื่อเดือนธันวาคมปี 2018 คือการ 'ประกาศจุดยืนองค์กร' ว่าผมต้องการฟุตบอลที่ทุกคนต้องวิ่งเยอะ ทุกคนต้องทำงานหนักมาก มีใครทำกันไม่ได้บ้างไหม? ทำไม่ได้ หรือใครที่ไม่โอเคกับวัฒนธรรมองค์กร ก็ขอให้ออกไปได้เลย เราต้องการคนที่เข้าใจ และพร้อมจะไปกับเรา และเข้าใจ 'แก่นแท้' ขององค์กรเราเท่านั้น

หลังจากคัดเฉพาะขุนพลที่มีหัวจิตหัวใจไปในทางเดียวกันแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการค่อยๆ ติดตั้งระบบ ซึ่งแน่นอน ทุกทีมที่เซตระบบใหม่ เกมรับต้องแข็งแกร่งก่อน สร้างทีมใหม่ จะไปบ้ากระหน่ำบุก แต่เกมรับ ไม่แข็งแกร่ง สุดท้ายก็เก็บผลการแข่งขันได้ยากครับ เพราะเกมรุกที่ดี ต้องเริ่มจากเกมรับที่แข็งแกร่ง ถ้าทีมคุณเกมรับไม่แข็ง ตัวบุกก็ต้องลงมาช่วยเกมรับ และไม่กล้าบุกขึ้นสุด และท้ายที่สุด ก็จะเสียความมั่นใจกันไปหมด ถ้าเกมรับ ทำให้เกมรุกมั่นใจว่า 'คุมหลังให้ได้ ไม่มีปัญหา ไม่เสียประตูแน่' นั่นล่ะครับ ผู้เล่นเกมบุกก็จะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสนุก

โซลชาบอกว่า "ก่อนหน้านี้เรามีผลงานที่ดีกับทีมใหญ่ เราใช้ไดมอนด์ , 3-5-2 เพื่อเอาชนะคู่แข่ง' "แต่ตอนนี้ เราเอาชนะคู่แข่ง ด้วยวิธีการของเราได้แล้ว มันเป็นสิ่งที่พวกเรารอคอยกัน และมันพิสูจน์แล้วว่า สไตล์ฟุตบอลของเราเอง สามารถเก็บผลการแข่งขันกับทีมใหญ่ได้จริงๆ" ครับ โซลชา กับการเจอทีมใหญ่ในฤดูกาลที่แล้ว (2019/2020) เน้นการตั้งรับให้แน่นและโต้กลับเร็ว จนตอนนั้นแฟนๆ

บางส่วนบ่นว่า 'ชนะได้แต่กับทีมใหญ่เพราะโต้กลับ ส่วนทีมเล็ก ก็เจาะไม่ได้เหมือนเดิม' ซีซั่นนี้ โซลชา มีนักเตะที่เล่นเกมรุกในรูปแบบของตัวเองได้พร้อมแล้ว เขามี บรูโน่ , ฟาน เดอ เบค , ป็อกบา คอยปั้นเกม , มี เฟร็ด กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่แกร่งขึ้่นกว่าเดิม และ เนมานย่า มาติช คุมหน้าแผงหลัง มี แรชฟอร์ด ที่โตขึ้น ทำงานร่วมกับ วัยรุ่นอย่าง เมสัน กรีนวู้ด และ 'ท่านนายพราน' เอดินสัน คาวานี่ ที่โซลชา ดึงมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับกลุ่มตัวรุกแดนบนทุกคน

ตอนนี้ก็ขาดเพียงแต่ปีกขวาธรรมชาติตำแหน่งเดียวเท่านั้น ที่ทีมงานซื้อขายต้องไปเติมเต็มให้โอเล่ ในตลาดช่วงซัมเมอร์ การเอาชนะทีมกลางๆ หรือทีมเล็กได้ด้วยรูปแบบเกมรุกที่ ยูไนเต็ด 'ขึงเกมใส่' มาจากเกมรับที่เริ่มเล่นกันอย่างเข้าขารู้ใจ และมาจากเกมรุกที่ติดตั้งอุปกรณ์ได้ครบครันดั่งใจ ไม่เหมือนซีซั่นที่แล้ว ที่สลับกันขาดฟันเฟืองสำคัญ ไม่เคยอยู่กันครบ จนกระทั่งจบฤดูกาล เริ่มแรก เราขึงเกมบุกใส่ทีมเล็กได้ แต่เจอทีมใหญ่ ยังต้องตั้งรับและโต้กลับอยู่ แต่การกล้าที่จะบุกใส่ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก แม้ว่า 'หงส์แดง' จะอยู่ในสภาพทีมไม่เต็มร้อย

แต่สังเกตว่านี่เป็นครั้งแรกที่ ยูไนเต็ด ไม่ได้เล่นตั้งรับและรอโต้กลับ ให้ลูกทีมของคล็อปป์ ครองเกมอีกต่อไป ยูไนเต็ด มีจังหวะตัดบอลจากกลางสนามและโจมตีเร็วที่น่ากลัว และมีจังหวะที่ทำเกมรุกใส่ ลิเวอร์พูล ได้ด้วย! นี่จึงเป็น 'จุดยืน' สำคัญที่ยูไนเต็ดสำเร็จไปอีกขั้น แม้การติดตั้งจะยังไม่สมบูรณ์ เพราะเราอาจจะยังเป็นรองและยังต้องตั้งรับอยู่ เมื่อเจอกับทีมอย่าง แมนฯซิตี้

แต่การ 'ติ๊กถูก' ด้วยการเอาชนะ ลิเวอร์พูล ในเกมที่ ยูไนเต็ดไม่ได้ตั้งรับ นั่นทำให้ความมั่นใจให้ห้องแต่งตัวพุ่งสูงถึงขีดสุด มันไม่ได้สำคัญที่เอฟเอ คัพ หรือแม้แต่ชัยชนะในแดงเดือด แต่มันสำคัญที่เราผ่านเกมใหญ่ ผ่านเกมที่ยาก ด้วยวิธีของเราเอง ... 'ด้วยเกมบุกในแบบของเราเอง' คำว่า "Win on our terms" ชนะในแบบของเรา อาจจะเปลี่ยนเป็น "Win the title on our terms" หรือ คว้าแชมป์ได้ในแบบของเรา ถ้าการพัฒนาทีมของโซลชา เป็นไปตามแผนที่พวกเราวางกันเอาไว้ครับ