เมื่อปิร์โล่เริ่มจูนติด

- ระบบ 4-4-2 จำนวน 7 นัด
- ระบบ 3-4-1-2 จำนวน 4 นัด
- ระบบ 3-5-2 จำนวน 4 นัด
และใช้ระบบ 3-4-2-1 อีกจำนวน 2 นัด
มองภาพง่าย ๆ แผนการเล่นหลักของ ปิร์โล่ คือการใช้กองหลัง 3 คน โดยแตกย่อยในรายละเอียดแค่นิดหน่อยระหว่าง 3-4-1-2, 3-5-2 และ 3-4-2-1 จุดสำคัญของระบบหลัง 3 ที่ปิร์โล่ใช้นั้นมีการปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นไลน์ดีเฟนซ์ระหว่างเกมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างจากที่ อันโตนิโอ คอนเต้ นิยมใช้อย่างสิ้นเชิง
ดานิโล่ คือตัวแปรตรงจุดนี้ เขารับบทบาทเป็นทั้งเซนเตอร์ฮาล์ฟและแบ็คขวาในคราวเดียวกัน นั่นเลยทำให้ฤดูกาลนี้ดาวเตะชาวบราซิลกลายเป็นคนที่ลงสนามตัวจริงแทบจะไม่ได้พัก เมื่อทีมเล่นเกมรุกเขาจะถ่างออกไปเติมเกมบุกด้านขวา แต่พอตั้งรับเขาจะหุบมาเป็นเซนเตอร์ตัวกลางทันที
นอกจากนี้ วิงทั้ง 2 ข้างยังถือเป็นหัวใจหลักในการทำเกมบุกอีกด้วย เกมถล่ม ปาร์ม่า 4-0 เมื่อคืนนี้ กุนซือเคราดกเลือกส่ง เดยัน คูลูเซฟสกี้ ลงสนามเป็นตัวจริงในตำแหน่งวิงด้านขวา ส่วน อเล็กซ์ ซานโดร ยืนเป็นวิงด้านซ้าย ทว่าพอเล่นจริง ๆ ผมกลับสังเกตุเห็นว่าปีกชาวสวีเดนเล่นเหมือนตัวฟรีมากกว่าริมเส้นเสียอีก เขาหุบมาเล่นตรงกลางพอ ๆ กับทำเกมทางกราบ ในทางกลับกัน ซานโดร นั้นเล่นเหมือนแบ็คซ้ายมากกว่าตัวรุก เขาคอยประคองเกมรับเสียส่วนใหญ่ แต่ก็หาโอกาสเติมเกมบุกทุกครั้งที่มีโอกาส
3 จาก 4 ประตูที่ยิงปาร์ม่าได้ มาจากการทำเกมริมเส้น และยังเกิดขึ้นจากริมเส้นฝั่งซ้ายทั้งหมดอีกด้วย
ประตูขึ้นนำ 1-0 ของ ยูเวนตุส มาจากการเปิดของวิงซ้ายอย่าง ซานโดร และจบลงที่การยิงของวิงขวาอย่าง คูลูเซฟสกี้, ประตู 2-0 เป็น อัลบาโร่ โมราต้า ที่ฉีกตัวออกมาอยู่ริมเส้นซ้ายก่อนจะตักเข้ากลางให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทะยานขึ้นโหม่งอย่างสวยสดงดงาม ขณะที่ประตู 4-0 นั้นสมบูรณ์แบบที่สุดในสายตาของผม มันเริ่มจากการคิดเร็วทำเร็วของ โรดริโก้ เบนทานกูร์ ที่ตักบอลยาวจากครึ่งสนามออกไปฝั่งซ้ายให้ เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ ก่อนที่ดาวเตะรูปหล่อจะบรรจงครอสเข้าหัว โมราต้า อย่างเหมาะเหม็ง
นี่เป็นเกมที่ 3 ในฤดูกาลนี้แล้วนะครับที่ ยูเวนตุส ของ ปิร์โล่ ยิงคู่แข่งได้ 4 ประตูในเกมเดียว ซึ่งล้วนเกิดขึ้นบนการเล่นเป็นทีมเยือนทั้งหมด และหากนับแค่ผลงานในเดือนธันวาคม เราจะพบว่าปิร์โล่สามารถพาทีมยิงประตูคู่แข่งได้มากกว่า 3 ลูกขึ้นไปถึง 4 จาก 6 นัด และหลุดเสมอแค่นัดเดียวเท่านั้น คือเกมกับ อตาลันต้า เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
________________________________
อีกจุดนึงที่น่าสนใจก็คือการระเบิดฟอร์มของ อัลบาโร่ โมราต้า ครับ
ดาวยิงชาวสเปนเสียศูนย์ตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับ เชลซี และถึงแม้จะกลับไปเล่นใน ลา ลีกา กับ แอตเลติโก มาดริด เขาก็ยังคงเรียกฟอร์มเก่งกลับมาไม่ได้จนถูกมองว่าเป็นสากกระเบือเคลื่อนที่ไปเรียบร้อย
แต่ภายใต้การทำงานกับปิร์โล่ เราเห็นโมราต้าในเวอร์ชั่นที่ผิดแผกจากเดิมไปเยอะมาก เขาทิ้งตัวล้มน้อยกว่าที่เคยเป็น วิ่งหาช่องเก่งกว่าที่เป็นมา และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เขาลงสนามด้วยความมั่นใจในทุกนัด
สถิติยิง 10 ประตู 4 แอสซิสต์จาก 16 นัดรวมทุกถ้วยทุกรายการ คือหลักฐานยืนยันชั้นดีว่า โมราต้า พัฒนาตัวเองมามากแค่ไหนในฐานะดาวยิงเบอร์ 9 เพราะนับตั้งแต่เล่นฟุตบอลอาชีพมา เขาเคยยิงได้มากที่สุดจ่อฤดูกาลคือ 20 ประตูจาก 43 นัด สมัยที่อยู่กับ เรอัล มาดริด ฤดูกาล 2016-17 แต่ในเวลานี้ เขาเพิ่งเล่นได้ไม่ถึงครึ่งฤดูกาล แต่ยิงไปแล้วถึงหลัก 10 ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่แทบจะดีที่สุดของเขาเลยก็ว่าได้
ยิ่งไปกว่านั้น การเคลื่อนที่ของเขากับ โรนัลโด้ ก็ดูจะเข้าขาลงตัวมาก ๆ มีหลายจังหวะเลยนะครับในฤดูกาลนี้ที่ผมมักจะเห็นเขากับโรนัลโด้คอยวิ่งทำทางและพยายามแอสซิสต์ให้กันและกันอย่างไม่หวงบอล พูดกันตามตรง นาทีนี้เขาตอบโจทย์ของทีมได้ดีกว่า เปาโล ดีบาล่า ด้วยซ้ำ
ซึ่งในรายของ ดีบาล่า ผมยอมรับเลยว่าดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์เต็มไปด้วยปัญหารอบด้าน ทั้งฟอร์มตก ทั้งอาการบาดเจ็บ และที่สำคัญกว่าก็คือเหมือนสมาธิของเขาจะไปจดจ่อกับสัญญาฉบับใหม่มากจนเกินไป
ดีบาล่าไม่ตอบโจทย์แท็คติคของ ปิร์โล่ ในฐานะกองหน้าคู่เลยสักนัด เขาชอบหลงตำแหน่งลงมาล้วงบอลตรงกลางจนทับตำแหน่งกับเพื่อนอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งเขาต้องการมีส่วนร่วมต่อเกมของทีมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดูว่าจะมีแต่ความสับสนมากขึ้นเท่านั้น
ในจุดนี้ ดีบาล่าอาจต้องปรับความคิดตัวเองใหม่ เขาจำเป็นต้องวนเวียนในกรอบเขตโทษมากกว่าที่เป็นอยู่ เปลี่ยนบทบาทจากตัวเชื่อมเกมตรงกลางไปเป็นตัวเชื่อมบอลแดนหน้าให้มากขึ้น เรื่องการยิงประตูไม่ใช่ข้อสงสัยในตัวเขาเลย แต่เรื่องการเคลื่อนที่ในกรอบเขตโทษ คือสิ่งที่เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนความคิด หากต้องการเรียกฟอร์มเทพแบบสมัยก่อนคืนมา
________________________________
ชัยชนะต่อ ปาร์ม่า 4-0 อาจไม่ได้ทำให้อันดับในตารางขยับจากที่ 3 ไปเป็นรองจ่าฝูงได้ก็จริง แต่มันเป็นกำลังใจชั้นเยี่ยมที่พอจะทำให้ยูเวนตินี่เริ่มมองเห็นวี่แววดี ๆ สำหรับพัฒนาการของทีมตัวเองมากกว่าที่ผ่าน ๆ มา
ช่วงที่ ยูเวนตุส ทำแต้มหล่นในลีกติด ๆ กัน บางคนรีบกาชื่อม้าลายออกจากสารบบลุ้นแชมป์พร้อมกับหัวเราะเยาะ อันเดรีย ปิร์โล่ กันอย่างสนุกสนาน โดยลืมไปว่า นี่คือโค้ชหน้าใหม่ที่ไม่เคยลองคุมทีมเลยสักครั้ง และในช่วงปรี ซีซั่น ก็มีโอกาสลองทีมเพียงแค่นัดเดียว
ดังนั้น สำหรับมุมมองของผม ยูเวนตุสกำลังมาถูกทางแล้วสำหรับไอเดียฟุตบอลใหม่ ๆ จาก อันเดรีย ปิร์โล่ ยิ่งมองไปที่ผลลัพธ์ ทีมของกุนซือเคราดกเพิ่งแพ้ต่อ บาร์ซ่า ไปแค่ทีมเดียวเองนะครับ แถมยังอาจหาญบุกไปล้างแค้นถึงกาตาลันได้ 3-0 อีกต่างหาก ผลงานในลีกก็ไม่แย่ แข่งไป 13 ชนะ 7 เสมอ 6 ยังไม่แพ้ใคร เสียประตูน้อยที่สุดในลีก และยังมีผลต่างประตูได้เสียดีสุดในลีกอีกด้วย
ยูเวนตุสภายใต้การทำทีมของปิร์โล่มือใหม่ อาจดูกระท่อนกระแท่นไปบ้าง แต่ยังกาชื่อพวกเขาออกจากตัวเต็งลุ้นแชมป์ไปไม่ได้จริง ๆ

Cr.ทดเวลาบาดเจ็บ